Select Page

boo-1

boo-2

boo-3

“บู” เซเลบหมาน้อยชื่อดังแห่งสหรัฐอเมริกา กับความน่ารักของเจ้าบู ที่บรรดาแฟนคลับชื่นชม และยกให้มันเป็นหมาที่น่ารักที่สุดในโลก
ตอนนี้มีคนกด “ไลค์” ที่หน้าเพจของบู สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวน้อยนี้กว่าห้าล้านคนทั้งๆ ที่มันเพิ่งปรากฏโฉมในเฟซบุ๊คเมื่อ 3 ปีที่แล้วนี่เอง นอกจากนี้ วิดีโอของบูในยูทูบก็ยังมีคนติดตามและคลิกเข้าไปดูเป็นจำนวนมาก

ความคลั่งไคล้ในเจ้าบูนั้น ถึงขั้นที่สาวกเฟซบุ๊คซึ่งหลงใหลเจ้าหมาปอมตัวน้อยนี้คอยเข้ามาติดตามดูมันทุกวัน ส่วนเจ้าบูเองก็ขยันโพสต์ท่าตามสถานที่ต่างๆ ไม่ซ้ำกัน

โดยเจ้าบู มีประโยคประจำตัวคือ”ผมชื่อบู ผมเป็นหมา ชีวิตนี้ดีจัง”

ชื่อเสียงอีกอย่างของบูคือ ทรงผมที่ได้รับการดูแลอย่างดี ในหน้าเพจยังมีบัดดี้ สุนัขรุ่นพี่ของบูมาโพสต์ท่าเคียงข้างบูอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าบู

คนที่เล่าเรื่องราวของบู หรือบรรยายรูปในหน้าแฟนเพจของบู ใช้ชื่อว่า เจ เอช ลี เขาเขียนว่าบูเกิดเมื่อปี 2549 และอยู่กับเขามาตั้งแต่เกิด เขาพาบูไปที่ทำงานด้วย และมันก็กลายเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ ที่ทำงานเพราะความน่ารัก ชอบส่งตาหวาน และนิสัยขี้อ้อนของมัน

ต่อมา เขานึกสนุก จึงได้สร้างหน้าเพจ และใส่รูปของมันในเฟซบุ๊คเพื่อให้คนอื่นได้เห็นความน่ารักของมันด้วย

ช่วงแรกๆ บูยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นักในเฟสบุ๊ค แต่เมื่อนักร้องดังอย่าง เคชา เขียนถึงบูในทวิตเตอร์ว่าเป็นแฟนใหม่ของเธอพร้อมกับแปะลิ้งค์ให้คลิกกลับมาที่หน้าเพจของมัน และหลังจากนั้นอีก 4 วัน โคลเอ้ คาร์ดาเชียน เซเลบ และพิธีกรคนดังของสหรัฐก็ได้โพสต์รูปมันไว้ในบล็อกของเธอด้วย

และนั่นจึงเป็นเหตุให้มีคนหลั่งไหลเข้าไปดู และคลิกไลค์หน้าเพจของบูอย่างมากมาย

กระแสคลั่งไคล้บูกระจายออกไปนอกเฟซบุ๊ค แม้แต่กู๊ด มอร์นิ่ง อเมริกา รายการทีวีชื่อดังของอเมริกาก็ยังเชิญมันไปออกรายการเมื่อปีที่แล้ว

นอกจากนี้ บูยังมีหนังสือของตัวเองชื่อ “บู : ชีวิตของมะหมาที่น่ารักที่สุดในโลก” ซึ่งรวบรวมรูปภาพและเล่าเรื่องราวชีวิตแต่ละวันของบูผ่านการเขียนของ เจ เอช ลี

เอพริล วิตนีย์ ตัวแทนของสำนักพิมพ์ครอนิเคิล บุ๊คส์กล่าวว่า หนังสือของบูราคาเล่มละ 400 บาทเป็นที่ต้องการมาก และได้รับการแปลเป็นหลายภาษาเช่น โปรตุเกส ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน นอร์เวย์ อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี ตุรกี และจีน โดยสำนักพิมพ์ตัดสินใจพิมพ์เล่มที่ 2 โดยให้ชื่อว่า “บู : หมาน้อยในเมืองใหญ่” เพราะทนเสียงเรียกร้องจากบรรดาแฟนๆ ไม่ไหว

นอกจากนี้ ครอนิเคิลบุ๊คส์ยังจัดพิมพ์ปฏิทินที่มีรูปภาพของบูในอิริยาบถต่างๆ ในแต่ละเดือนด้วยซึ่งก็ขายดีอีกเช่นกัน

ความมีชื่อเสียงของบูนั้นเทียบเท่าเซเลบดังๆ หลายคนที่มีข่าวลือว่าเสียชีวิตทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง

ครั้งหนึ่งมีข่าวลือแพร่สะพัดในทวิตเตอร์ว่า บูตายกระทันหัน ผู้คนจำนวนมากเขียนแสดงความเสียใจที่หน้าเพจบูทำให้สำนักพิมพ์ครอนิเคิล บุ๊คส์ต้องส่งโฆษกมายืนยันว่า บูยังมีชีวิตอยู่

แต่ไม่ว่าบูจะมีชื่อเสียงมากมายอย่างไร ก็ไม่มีใครรู้ว่า เจ้าของของบูเป็นใคร เพราะไม่เคยมีรูปของเธอหรือเขาในเฟซบุ๊คเลย ขณะที่ เจ เอช ลี ซึ่งหลายคนเดากันว่า น่าจะเป็นเจ้าของเจ้าบูนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าลีเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง หรือนี่จะใช่ชื่อจริงหรือเป็นเพียงนามปากกาเท่านั้น

แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ไมค์ ไอแซค นักเขียนด้านเทคโนโลยีของเว็บไซต์ AllthingsD ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าของบูชื่อ ไอรีน อานน์ ที่สำคัญคือเธอทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินที่เฟซบุ๊คนั่นเอง เธอทำที่นี่มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 โดยย้ายมาจากยาฮู และก่อนหน้ายาฮู เธอเคยทำที่เพย์พาล (Paypal) ไอแซคเล่าว่า เขาพยายามติดต่อไปที่อานน์แต่เธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมา

เมื่อถามถึงเรื่องอานน์ วิตนี่ย์ตอบแต่เพียงว่า ทั้งเจ้าของและบูอาศัยอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก เธอว่า เจ้าของบูนั้นต้องการความเป็นส่วนตัว ขออยู่เบื้องหลังและไม่ต้องการชื่อเสียงใดๆ ตอนแรกเป็นทางสำนักพิมพ์เองที่ติดต่อไปที่เธอซึ่งในตอนนั้นบูมีแฟนเพจแค่ 60,000 คนเท่านั้น

เมื่อมีการเปิดเผยเช่นนี้ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับจำนวนแฟนคลับกว่า 5 ล้านคนของบูในเฟซบุ๊คว่าจริงหรือไม่ ไอแซคกล่าวว่า อานน์น่าจะได้รับความช่วยเหลือวิศวกรของเฟซบุ๊คซึ่งเธอทำงานอยู่เพื่อทำให้จำนวนแฟนเพจมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้น แฟนๆ ของบูหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ก่อนหน้านี้ ที่อานน์ไม่ยอมเปิดเผยตัวซักทีว่าเป็นเจ้าของบูทั้งๆ ที่บูมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วก็เพราะเธอทำงานที่เฟซบุ๊คนี่เอง บางคนว่า เธอคงกลัวคนจะรู้ว่าที่บูมีชื่อเสียงก็เพราะเฟซบุ๊คช่วย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แฟนๆ หลายคนก็อ้างว่าอานน์ต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ และจำนวนแฟนคลับ 5 ล้านคนนี่ยังน้อยไปสำหรับความน่ารักของบูพวกเขาว่าไอแซคโกหกที่อ้างว่ามีคนในเฟซบุ๊คแอบเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังเพราะจริงๆ แล้ว เขาแอบแฮคเข้าไปในเฟซบุ๊คของบูต่างหาก

แต่ เจสสิก้า รอย แห่งเว็บเบต้าบีทกล่าวว่า น่าสนใจมากที่เจ้านายของบูที่มีแฟนเพจเกือบ 5 ล้านคนทำงานที่เฟซบุ๊ค เพราะการที่อานน์ทำงานในบริษัทมหาอำนาจทางออนไลน์อย่างนี้ทำให้เชื่อได้ว่า ชื่อเสียงของบูนั้นไม่ได้มาจากความน่ารักเพียงอย่างเดียวแน่นอน

หลายคนโยงเรื่องนี้ไปที่ผลประโยชน์ และเงินที่ทางอานน์จะได้รับจากความมีชื่อเสียงของบู เพราะถ้าบูมีคนรู้จักน้อยก็ย่อมจะไม่ได้รับเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ ไม่มีหนังสือและปฏิทินเป็นของตัวเอง ในหน้าเพของบู เมื่อมีแฟนคลับถึง 5 ล้านคนย่อมจะมีโฆษณาหลั่งไหลกันเข้ามา ซึ่งไม่รู้ว่ามีการแบ่งผลประโยชน์กันอย่างไร

แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือคำแถลงใดๆ จากบู อานน์หรือเจ เอช ลี ทำให้เรื่องเจ้านายของบูยังเป็นปริศนาต่อไป

แฟนๆ หลายคนเรียกร้องให้เจ้าของบูออกมาแถลงข่าว เพราะเรื่องนี้ทำลายความศรัทธาและเชื่อมั่นของพวกเขาที่มีต่อบูอย่างมาก แต่บรรดาสาวกตัวจริงของบูกล่าวว่า พวกเขาไม่สนใจหรอกว่า ใครเป็นเจ้านายของบู พวกเขาสนใจแต่ว่า วันนี้บูจะใส่เสื้อแบบไหน ทำผมทรงใหม่หรือเปล่าเท่านั้นเอง

(ที่มา : เดลี่ เมล, บิสซิเนส อินไซเดอร์, เอ็นบีซี นิวส์, กรุงเทพธุรกิจ)